Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

รู้จักวงจร DNA Methylation: ยีนต่าง ๆ ที่ควบคุมวงจรนี้, SNPs และการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตามผลตรวจ DNA

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Dec 04, 2024
|
149
สุขภาพ
พันธุศาสตร์
เมทิลเลชัน DNA, MTHFR SNPs, การล้างพิษตามพันธุกรรม, Geneus DNA แพ็กเกจพรีเมียม, รายงานสุขภาพเฉพาะบุคคล, วิธีปรับสมดุลโฮโมซิสเทอีน
Summary
เมทิลเลชัน DNA, MTHFR SNPs, การล้างพิษตามพันธุกรรม, Geneus DNA แพ็กเกจพรีเมียม, รายงานสุขภาพเฉพาะบุคคล, วิธีปรับสมดุลโฮโมซิสเทอีน

วงจร DNA Methylation เป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่สำคัญต่อการแสดงออกของยีน การกำจัดสารพิษ (Detoxification) และการรักษาสมดุลของเซลล์ การทำงานของวงจรนี้ช่วยให้ร่างกายของเราแก่ตัวช้าลง และมีสุขภาพดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ทีสุขภาพจิตที่ดี

แต่หากเกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น SNPs (Single Nucleotide Polymorphisms) ในวงจรดังกล่าว ก็อาจส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังและภาวะสุขภาพอื่น ๆ ตามมา

ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงยีนที่มีบทบาทสำคัญในวงจรเมทิลเลชัน รายละเอียดของ SNPs ที่เกี่ยวข้อง พร้อมคำแนะนำสำหรับการปรับไลฟ์สไตล์ และปิดท้ายด้วย แพ็กเกจ Exclusive ของ Geneus DNA ที่ให้รายงานสุขภาพและพรสวรรค์กว่า 500 รายการ รวมถึงรายงานพิเศษ DNA Methylation และ Detoxification พร้อมคำแนะนำในการจัดการกับผลลัพธ์เฉพาะบุคคล

ยีนสำคัญในวงจรเมทิลเลชัน

1. MTHFR (Methylenetetrahydrofolate Reductase)

  • ทำหน้าที่เปลี่ยนโฟเลตให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานได้ (5-MTHF) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมโฮโมซิสเทอีน
  • SNPs ที่สำคัญ: C677T (rs1801133), A1298C (rs1801131)
  • ผลกระทบ: หากมีการกลายพันธุ์ หรือ Variant อาจทำให้โฟเลตต่ำและเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

2. MTR (Methionine Synthase)

  • ทำหน้าที่เปลี่ยนโฮโมซิสเทอีนเป็นเมไธโอนีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญในวงจรเมทิลเลชัน
  • SNP: A2756G (rs1805087)
  • ผลกระทบ: หากยีนนี้ผิดปกติ ระดับโฮโมซิสเทอีนจะสูงขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพหัวใจและสมอง

3. MTRR (Methionine Synthase Reductase)

  • ทำหน้าที่เสริมการทำงานของ MTR ในการเปลี่ยนโฮโมซิสเทอีนกลับเป็นเมไธโอนีนอย่างต่อเนื่อง
  • SNP: A66G (rs1801394)
  • ผลกระทบ: ความบกพร่องอาจทำให้วงจรเมทิลเลชันทำงานผิดปกติ และระดับโฮโมซิสเทอีนสูงขึ้น

4. SHMT (Serine Hydroxymethyltransferase)

  • มีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญหรือเมแทบอลิซึมของโฟเลต และการซ่อมแซม DNA
  • SNP: C1420T (rs1979277)
  • ผลกระทบ: การกลายพันธุ์อาจส่งผลต่อการเผาผลาญโฟเลต วงจรเมทิลเลชัน และการซ่อมแซม DNA

5. FUT2 (Fucosyltransferase 2)

  • มีผลต่อการดูดซึมวิตามิน B12 ผ่านไมโครไบโอมในลำไส้
  • SNP: rs601338
  • ผลกระทบ: หากผิดปกติ อาจทำให้วิตามิน B12 ต่ำและกระทบวงจรเมทิลเลชัน

6. BHMT (Betaine-Homocysteine Methyltransferase)

  • ทำหน้าที่แปลงโฮโมซิสเทอีนเป็นเมไธโอนีนโดยใช้บีเทน
  • SNP: G472A (rs3733890)
  • ผลกระทบ: ความผิดปกติอาจทำให้ระดับโฮโมซิสเทอีนสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

7. AHCY (Adenosylhomocysteinase)

  • ควบคุมระดับโฮโมซิสเทอีนโดยสลาย SAH (S-Adenosyl-L-homocysteine)
  • SNP: rs819147
  • ผลกระทบ: หากมีการกลายพันธุ์ หรือ Variant อาจส่งผลต่อการควบคุมระดับโฮโมซิสเทอีน และกระทบต่อเมทิลเลชัน

8. CBS (Cystathionine Beta-Synthase)

  • เปลี่ยนโฮโมซิสเทอีนเป็นซีสทาไธโอนีน ซึ่งเป็นการกำจัดโฮโมซิสเทอีนออกจากวงจรเมทิลเลชันโดยตรง
  • SNP: C699T (rs234706)
  • ผลกระทบ: การกลายพันธุ์ในยีนนี้อาจทำให้การทำงานของ CBS เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ

9. CTH (Cystathionine Gamma-Lyase)

  • ทำหน้าที่ผลิตซีสเทอีน เพื่อเป็นตัวตั้งต้นในการสร้างกลูตาไธโอน
  • SNP: rs1021737
  • ผลกระทบ: ความบกพร่องในยีนนี้สัมพันธ์กับการสะสมตัวของโฮโมซิสเทอีน ​ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย

10. COMT (Catechol-O-Methyltransferase)

ประโยชน์ของการปรับสมดุลเมทิลเลชันให้เหมาะสม

ประโยชน์ของการปรับสมดุลเมทิลเลชันให้เหมาะสม

  • ป้องกันโรคหัวใจ: ลดความเสี่ยงโรคหัวใจด้วยการควบคุมระดับโฮโมซิสเทอีน
  • เพิ่มการกำจัดสารพิษ: ช่วยให้ตับกำจัดสารพิษต่าง ๆ ได้ดีขึ้น รวมถึงโลหะหนักและสารพิษจากสิ่งแวดล้อม
  • ซ่อมแซม DNA และชะลอวัย: ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย
  • สุขภาพจิตที่ดีขึ้น: ปรับสมดุลของสารสื่อประสาท ส่งเสริมอารมณ์ที่ดีและการทำงานของสมอง

วิธีปรับไลฟ์สไตล์เพื่อช่วยเสริมวงจรเมทิลเลชันในร่างกาย

1. ปรับอาหาร

  • อาหารที่มีโฟเลตสูง: ผักใบเขียว เช่น บรอคโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ถั่ว และอะโวคาโด
  • แหล่งวิตามิน B12: ไข่ นม (หรือผลิตภัณฑ์จากพืชที่เสริมวิตามิน) แซลมอน ทูน่า หรือผลิตภัณฑ์เสริมสำหรับผู้ที่มีปัญหาที่ยีน FUT2
  • เบเทน: บีทรูทและผักโขมช่วยเสริมการทำงานของยีน BHMT

2. เสริมอาหาร

  • วิตามิน B ในรูปแบบเมทิลเลต: โดยเฉพาะ 5-MTHF (เมทิลโฟเลต) และเมทิลโคบาลามิน (B12)
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: NAC (N-Acetyl Cysteine) เพื่อเพิ่มกลูตาไธโอน ช่วยในการล้างพิษ

3. การออกกำลังกายและจัดการความเครียด

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยรักษาสมดุลเมทิลเลชัน และสารสื่อประสาท
  • การจัดการความเครียด: เช่น การฝึกสมาธิ และโยคะ ช่วยเอื้อประโยชน์ในการจัดการความเครียดสำหรับผู้ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน COMT 
  • ลดการสัมผัสสารพิษ: ลดการบริโภคแอลกอฮอล์ อาหารแปรรูป และการสัมผัสสารเคมี เพื่อป้องกันการกระทบต่อวงจรเมทิลเลชัน

เปิดประตูสู่สุขภาพดีด้วย Geneus DNA

เปิดประตูสู่สุขภาพดีด้วย Geneus DNA

หากคุณต้องการปรับสมดุลเมทิลเลชัน เพิ่มคุณภาพชีวิต และชะลอความเสื่อมของร่างกาย แพ็กเกจ Geneus DNA Exclusive พร้อมตอบโจทย์คุณ!

1. รายงานการกำจัดสารพิษเฉพาะบุคคล

  • กระบวนการล้างพิษเฟส 1(Detoxification Phase I)
  • กระบวนการล้างพิษเฟส 2(Detoxification Phase II)
  • กระบวนการล้างพิษเฟสกลาง (Detoxification Intermediate phase)

2. ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวงจรเมทิลเลชันและ SNP ที่สำคัญ
3. ผลตรวจวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงสุขภาพ มะเร็ง ความไวต่ออาหาร และอื่น ๆ รวมกว่า 500 รายการ
4. คำแนะนำด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่ปรับตามผลตรวจ DNA ของคุณ

นอกจากนี้ แพ็กเกจของเราครอบคลุมอีกกว่า 500 รายงานสุขภาพและพรสวรรค์ พร้อมทั้งหัวข้อพิเศษ Methylation และ Detoxification เพื่อให้คุณเข้าใจร่างกายของคุณอย่างลึกซึ้ง

อย่ารอช้า! เริ่มต้นการเดินทางสู่สุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนกับ Geneus DNA วันนี้ ค้นพบศักยภาพในตัวคุณผ่านพันธุกรรม และรับคำแนะนำเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร และตรงจุด

ปรับสมดุลชีวิตให้สมบูรณ์แบบด้วย Geneus DNA

 

วงจรเมทิลเลชัน Geneus DNA

 

chat line chat facebook