วงจรเมทิลเลชันของ DNA มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการแสดงออกของยีน สุขภาพเซลล์ และการตอบสนองของร่างกายต่อปัจจัยคุกคามจากสิ่งแวดล้อม กระบวนการนี้ช่วยให้ DNA ของเราทำงานได้อย่างถูกต้อง และเซลล์สามารถเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างมีระเบียบ
อย่างไรก็ตาม หากร่างกายของคนเรา เกิดข้อผิดพลาดในกระบวนการจำลอง DNA (DNA replication) เช่น การใช้ เบสยูราซิล (U) เข้ามาทดแทน เบสไทมีน (T) อาจทำให้เกิดความไม่เสถียรทางพันธุกรรม เมื่อเกิดข้อผิดพลาดเหล่านี้ โปรตีนที่ทำหน้าที่กดหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกที่ชื่อว่า p53 จะถูกกระตุ้นเพื่อนำไปสู่การ อะพอพโทซิส (หรือการตายของเซลล์) เพื่อลบเซลล์ที่เสียหายออกจากร่างกาย
บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของเมทิลเลชันของ DNA และเหตุใดการที่ร่างกายของคนเรามีการใช้เบส T อย่างถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพในระยะยาว
เมทิลเลชันของ DNA เป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่กลุ่มเมทิล (CH₃) ถูกเติมลงบนเบส ไซโตซีน ในลำดับ DNA กระบวนการนี้มีผลต่อการแสดงออกของยีนโดยไม่เป็นการเปลี่ยนลำดับของ DNA เอง เมทิลเลชันที่สมดุลส่งผลให้:
หากเมทิลเลชันถูกรบกวน เช่น จากการกลายพันธุ์ การขาดสารอาหาร หรือปัจจัยรบกวนจากสิ่งแวดล้อม รวมถึง ความเครียดจากภายใน ร่างกายอาจเสี่ยงต่อโรค เช่น มะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง
DNA ใช้ ไทมีน(T) เป็นหนึ่งในสี่เบสหลัก (A, T, C, G) ในขณะที่ ยูราซิล(U) จะพบใน RNA เท่านั้น ซึ่ง ยูราซิล(U) มีโครงสร้างคล้ายกับไทมีน(T) แต่มีความเสถียรน้อยกว่า กระบวนการจำลอง DNA หรือ DNA replication นั้น โดยปกติจะมีการใช้เบสไทมีน(T) ในกระบวนการดังกล่าวเท่านั้น แต่หากเกิดข้อผิดพลาดบางประการในกระบวนการเมทิลเลชันอาจทำให้มีการนำยูราซิล(U) มาใช้แทนไทมีน(T) ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา
เมื่อใดก็ตามที่วงจรเมทิลเลชันของดีเอ็นเอมีปัญหา จนกระทั่งส่งผลให้มีการเข้ามาแทนที่ไทมีน(T) ของยูราซิล(U) ในสาย DNA จะถือว่าเป็นความผิดปกติ เนื่องจากยูราซิล(U) ควรพบใน RNA เท่านั้น ข้อผิดพลาดนี้จะกระตุ้นกลไกซ่อมแซม DNA รวมถึงการกระตุ้นโปรตีน p53 ซึ่งเป็นโปรตีนยับยั้งเนื้องอกที่สำคัญ หากความเสียหายมีมากเกินไปหรือซ่อมแซมไม่ได้ p53 จะกระตุ้นให้เกิด อะพอพโทซิส หรือ การตายของเซลล์อย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์ที่เสียหายพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง แต่หากมีการกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์มากเกินไป ก็อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้
บทบาทของ p53 ในการตรวจจับข้อผิดพลาดและการตายของเซลล์
เมทิลเลชันมีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ที่มีหน้าที่ในการจำลองและซ่อมแซม DNA ภาวะไฮโปเมทิลเลชัน (เมทิลเลชันน้อยเกินไป) อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ยูราซิล(U) จะแทรกใน DNA ทำให้:
ในทางกลับกัน ภาวะไฮเปอร์เมทิลเลชัน (เมทิลเลชันมากเกินไป) อาจปิดการทำงานของยีนที่จำเป็นต่อการซ่อมแซม DNA ทำให้เซลล์เสี่ยงต่อข้อผิดพลาดและการกลายพันธุ์
หากเมทิลเลชันถูกรบกวนหรือข้อผิดพลาดยังคงอยู่ อาจเกิดปัญหาต่อไปนี้:
เพื่อรักษาสมดุลเมทิลเลชันที่เหมาะสมและป้องกันข้อผิดพลาดจากการแทรกของยูราซิล ควรปฏิบัติดังนี้:
ด้วยการเข้าใจพันธุกรรมของคุณ คุณสามารถดำเนินการเชิงรุกเพื่อการมีสุขภาพที่ดีขึ้น ด้วย แพ็กเกจ Exclusive ของ Geneus DNA คุณจะได้รับ:
1. รายงานการกำจัดสารพิษเฉพาะบุคคล
2. ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวงจรเมทิลเลชันและ SNP ที่สำคัญ
3. ผลตรวจวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงสุขภาพ มะเร็ง ความไวต่ออาหาร และอื่นๆ รวมกว่า 500 รายการ
4. คำแนะนำด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่ปรับตามผลตรวจ DNA ของคุณ
นอกจากนี้ แพ็กเกจของเราครอบคลุมอีกกว่า 500 รายงานสุขภาพและพรสวรรค์ พร้อมทั้งหัวข้อพิเศษ Methylation และ Detoxification เพื่อให้คุณเข้าใจร่างกายของคุณอย่างลึกซึ้ง
อ้างอิง