Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

ไม่อยากแก่เร็ว แอสตาแซนธิน ช่วยชะลอวัยได้

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Sep 11, 2024
|
899
สุขภาพ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
แอสตาแซนธิน, วิตามินชะลอวัย, แอสตาแซนธิน ต้านแก่
Summary
แอสตาแซนธิน, วิตามินชะลอวัย, แอสตาแซนธิน ต้านแก่

หากคุณต้องการรักษาความอ่อนเยาว์และชะลอความแก่ แอสตาแซนธินคือทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง แอสตาแซนธินสามารถช่วยป้องกันการเสื่อมของผิว และเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณต้องการรักษาความอ่อนเยาว์ และชะลอวัยอย่างมีประสิทธิภาพ แอสตาแซนธินเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะแอสตาแซนธินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในการช่วยป้องกันความเสื่อมของผิวและสุขภาพโดยรวม ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจว่า แอสตาแซนธินคืออะไร และทำไมแอสตาแซนธินจึงช่วยต้านแก่และชะลอวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกท่านสามารถใช้ประโยชน์จากแอสตาแซนธิน ในการรักษาความอ่อนเยาว์ ต้านแก่ และส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีได้อย่างเต็มที่

เปิดสรรพคุณ แอสตาแซนธิน กินอย่างไร เพื่อชะลอวัยให้เห็นผล

แอสตาแซนธิน คืออะไร?

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) เป็นสารสีแดงจากธรรมชาติที่อยู่ในกลุ่มคาโรทีนอยด์ สร้างขึ้นจากแพลงก์ตอนและสาหร่าย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน และให้สีแดง-ชมพูแดง แก่สิ่งมีชีวิตในน้ำ เช่น ปู กุ้งมังกร กุ้ง และปลาแซลมอนป่า รวมถึงนกฟลามิงโกก็ได้รับสีชมพู จากการกินอาหารที่มีแอสตาแซนธินเช่นเดียวกัน

สำหรับแหล่งธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของแอสตาแซนธินคือ สาหร่ายฮีมาโตคอกคัสพลูวิเอลิส (Haematococcus pluvialis) หรือที่รู้จักกันในนามสาหร่ายเลือด โดยในสภาวะปกติ สาหร่ายนี้จะสะสมแอสตาแซนธินไว้ในเซลล์ และเมื่อต้องเจอสถานการณ์ตึงเครียด เช่น ได้รับรังสียูวีสูง, ขาดสารอาหาร น้ำ หรือมีความร้อนสูง ตัวสาหร่ายก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง โดยกลไกการป้องกันตัวนี้ ช่วยให้สาหร่ายอยู่รอดได้ในช่วงเวลาที่เป็นอันตราย ทำให้มีการนำแอสตาแซนธินมาทำการวิจัย และคิดค้นผลิตภัณฑ์ รวมถึงวิตามินเสริมอาหารต่างๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความงามของผู้คน จนได้ผลลัพธ์ว่า นอกจากที่แอสตาแซนธินจะทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้นแล้ว แอสตาแซนธินยังช่วยชะลอวัยได้อีกด้วย

ประโยชน์ของแอสตาแซนธิน ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

แอสตาแซนธินได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่ดีที่สุด เพราะมันมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีถึง 6,000 เท่า นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าโคเอ็นไซม์ Q10 ถึง 770 เท่า และวิตามินอีถึง 100 เท่าเลยทีเดียว

ส่วนประโยชน์ที่ได้รับจากแอสตาแซนธินนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายด้าน เพราะนอกจากจะต้านอนุมูลอิสระได้แล้วนั้น แอสตาแซนธินยังมีคุณสมบัติ ในการต้านการอักเสบ ปกป้องระบบประสาท และต้านแก่ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของแอสตาแซนธิน ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

แอสตาแซนธินช่วยชะลอวัยได้อย่างไร

ด้วยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง แอสตาแซนธินสามารถลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยและปัญหาผิวอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีขึ้น ดังนี้

1. ป้องกันการแก่ก่อนวัยของผิวด้วยแอสตาแซนธิน
แอสตาแซนธินเป็นสารที่ช่วยชะลอวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้สามารถลดความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระในเซลล์ผิวหนังได้ ซึ่งอนุมูลอิสระเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการแก่ก่อนวัยของผิว เพราะสามารถทำลายโครงสร้างผิวได้

จากการศึกษาในญี่ปุ่นพบว่า การรับประทานแอสตาแซนธินช่วยปรับปรุงริ้วรอยรอบดวงตา และลดขนาดจุดด่างดำในบริเวณแก้มได้จริง นอกจากนี้ยังพบว่าผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น ความชุ่มชื้นของผิวเพิ่มขึ้น และความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้นอีกด้วย โดยแอสตาแซนธินไม่เพียงแต่ปกป้องคอลลาเจน จากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ แต่ยังยับยั้งเอนไซม์ที่ทำลายคอลลาเจน และกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนในผิวอีกด้วย

2. แอสตาแซนธินช่วยป้องกันแสงแดด
แอสตาแซนธินสามารถทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดธรรมชาติ เนื่องจากสามารถลดผลกระทบที่เกิดจากรังสี ยูวีได้ ซึ่งรังสียูวีเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเกิดการแก่ก่อนวัย

แอสตาแซนธินสามารถลดการอักเสบจากการถูกแดดเผา และป้องกันการเกิดริ้วรอยจากแสงแดดได้ แต่ถึงอย่างนั้น แอสตาแซนธินก็ไม่สามารถแทนที่ครีมกันแดดได้ทั้งหมด แต่สามารถเสริมให้ครีมกันแดดมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมได้

3. แอสตาแซนธินช่วยบำรุงสายตา
แอสตาแซนธินมีประสิทธิภาพในการปกป้องสายตา โดยจากการศึกษาพบว่า แอสตาแซนธินสามารถรักษาความชัดเจนของการมองเห็นและลดอาการสายตาเพลียจากการใช้คอมพิวเตอร์ พร้อมช่วยปรับปรุงการหดตัวของรูม่านตา และลดอาการสายตาล้าให้ดีขึ้น

4. แอสตาแซนธินเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
แอสตาแซนธินช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยการเพิ่มความสามารถของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ในการต่อสู้กับการติดเชื้อและการอักเสบ ด้วยคุณสมบัติของแอสตาแซนธินที่เป็น สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้แอสตาแซนธินช่วยปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกัน จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพในการปกป้องร่างกายจากโรคต่างๆ อย่างดีเยี่ยม

5. แอสตาแซนธินส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
แอสตาแซนธินมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เพราะมันช่วยลดการออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลเลว (LDL) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความดันโลหิต และลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น

6. แอสตาแซนธินช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย
แอสตาแซนธินมีประโยชน์ต่อผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง เนื่องจากสามารถลดความเสียหายของกล้ามเนื้อ รวมถึงลดเวลาในการฟื้นตัว และปรับปรุงประสิทธิภาพการออกกำลังกายได้ ทั้งนี้แอสตาแซนธินยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ และเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายได้ด้วย

แอสตาแซนธินช่วยชะลอวัยได้อย่างไร

แอสตาแซนธินในรูปแบบวิตามิน เสริมอาหาร กินเวลาไหน วันละกี่มิลลิกรัม?

ปัจจุบันแอสตาแซนธิน จัดเป็นวิตามินที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการชะลอวัย ต้านแก่ และบำรุงรักษาสุขภาพผิว ทำให้เราสามารถพบเห็นแอสตาแซนธินในรูปแบบต่างๆ มากมายวางขายในท้องตลาด โดยรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดคือ วิตามินแบบแคปซูล แบบเม็ด แบบยาหยด และแบบผง 

สำหรับรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ แอสตาแซนธินแบบแคปซูลและแบบเม็ด เนื่องจากง่ายต่อการทาน ไม่มีกลิ่น สะอาด และพกพาได้สะดวก ด้านเวลาและปริมาณการกินแอสตาแซนธินนั้น สามารถทานได้ตามคำแนะนำของวิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นๆ แต่โดยทั่วไปแล้วคนมักนิยมทานแอสตาแซนธินในช่วงเช้าหรือกลางวัน เพราะสามารถช่วยป้องกัน หรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระระหว่างวันได้ ซึ่งมักทานกันในปริมาณ 4-12 มิลลิกรัมต่อวันนั่นเอง

 

 

chat line chat facebook