ความเครียดสะสมเรื้อรังเป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และปัญหาทางจิตใจ การรู้จักบรรเทาความเครียดผ่านการออกกำลังกาย การทำสมาธิ และวิตามินเสริมเป็นวิธีที่ช่วยให้สุขภาพจิตและกายดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ความเครียดสะสมเรื้อรังเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย และจิตใจในระยะยาว โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันและความรีบเร่งในชีวิตประจำวัน อาจทำให้เกิดความกดดันโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจแสดงออกมาเป็นอาการต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย และอาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง
อย่ามองข้าม ความเครียดสะสม ภัยใกล้ตัวนำไปสู่หลายโรค
อันตรายจากความเครียดสะสมเรื้อรัง
ความเครียดสะสมเรื้อรังเป็นปัญหาที่มีอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก โดยสามารถส่งผลกระทบได้หลายด้าน ได้แก่
- โรคหัวใจ: ความเครียดทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมถึงการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงตีบ หรืออุดตัน ที่อาจนำไปสู่โรคหัวใจขาดเลือด
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ร่างกายที่อยู่ในภาวะเครียดมักจะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น การเจ็บป่วยบ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
- ปัญหาทางเดินอาหาร: ความเครียดอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น แผลในกระเพาะอาหาร อาการท้องอืด และการย่อยอาหารที่ไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมสารอาหารที่สำคัญ
- โรคทางจิตเวช: ความเครียดสะสมอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า และวิตกกังวล ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิต และการทำงานในชีวิตประจำวัน สภาวะจิตใจที่ไม่ดี อาจทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีบำบัดตัวเองจากความเครียด
การดูแลสุขภาพจิตและร่างกายเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับความเครียด ซึ่งมีวิธีบำบัดที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ได้แก่
- ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ช่วยให้รู้สึกมีความสุข และลดความเครียด การออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือทำโยคะ จะช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
- การทำสมาธิ และการหายใจลึก ๆ : การทำสมาธิหรือการหายใจลึก ๆ ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล และช่วยในการฟื้นฟูสมาธิ การใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีต่อวัน ในการทำสมาธิสามารถสร้างความแตกต่างที่มากขึ้นในจิตใจและความคิดได้
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสนับสนุนการทำงานของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานผลไม้ ผัก โอเมก้า-3 และอาหารที่มีวิตามินบี
- นอนหลับให้เพียงพอ: การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟู และปรับสมดุลทางจิตใจ การนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน
- พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ: การแชร์ความรู้สึกและประสบการณ์กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว สามารถช่วยลดความเครียดได้ เพราะการได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์ จากคนรอบข้างมีความสำคัญมาก
วิตามินคลายเครียดของ CARE Persona
หนึ่งในวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ คือการใช้วิตามินคลายเครียดจาก CARE persona ซึ่งได้คัดสรรสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดความเครียด และบรรเทาความวิตกกังวล จากคุณหมอโดยตรง ดังนี้
- Magnesium 100 mg: แมกนีเซียมช่วยในการลดความเครียดและความวิตกกังวล โดยมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยในการปรับอารมณ์ และให้ความรู้สึกสงบอีกด้วย
- Ultra Omega 3: กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติในการลดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล โดยช่วยในการทำงานของสมอง และลดการอักเสบในร่างกาย
- Vitamin D3 5000 IU: วิตามินดี3 เป็นวิตามินที่สำคัญในการรักษาสมดุลของอารมณ์ ทำให้รู้สึกสดชื่น และมีพลังงาน นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วย
- CARE® Mood D1: สูตรพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อลดความเครียดและปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น ด้วยส่วนผสมที่คัดสรรมาเฉพาะ ช่วยให้รู้สึกสงบ และมีสมาธิในการทำงาน
การเสริมสารอาหารเหล่านี้เข้าไปในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นในระยะยาว