มะเร็งลำไส้ เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยที่สุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมักจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากปัจจัยต่างๆ เช่น การใช้ชีวิตและการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม มะเร็งลำไส้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มสาวหรือวัยกลางคน
โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเกิดโรคนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สิ่งแวดล้อม หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือการสูบบุหรี่ แต่ยังรวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรม (DNA) ที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ในบางครอบครัว ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้จึงควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถจับสัญญาณของโรคในระยะแรกได้ ซึ่งช่วยในการรักษาได้อย่างทันท่วงที
มะเร็งลำไส้ หรือ Colorectal Cancer คือโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ ในลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง โดยเซลล์ที่ผิดปกตินี้อาจพัฒนาเป็นก้อนเนื้อที่เรียกว่า โพลิป (Polyp) ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจและรักษา โพลิปบางชนิดอาจกลายเป็นมะเร็งได้ อีกทั้งโรคนี้ยังมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ หากไม่ได้รับการรักษาในระยะแรก
มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ ได้แก่
พันธุกรรม เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บางคนมีโอกาสสูงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ โดยเฉพาะการกลายพันธุ์ในยีนสำคัญ เช่น APC, MLH1, และ EPCAM ที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์หรือซ่อมแซมความเสียหายของ DNA ได้ตามปกติ
1. ยีน APC (Adenomatous Polyposis Coli): เป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเติบโตของเซลล์ ยีนนี้มีบทบาทสำคัญในผู้ที่มีภาวะ Familial Adenomatous Polyposis (FAP) การกลายพันธุ์ของยีน APC ทำให้เกิดการสร้างโพลิปจำนวนมากในลำไส้ ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจและรักษา อาจกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด
2. ยีน MLH1 (MutL Homolog 1): ยีนนี้ทำหน้าที่ในการซ่อมแซม DNA ที่เสียหาย หากยีน MLH1 เกิดการกลายพันธุ์ จะทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซม DNA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเกิดการกลายพันธุ์สะสมในเซลล์จนพัฒนาเป็นมะเร็งลำไส้ได้ ยีน MLH1 มักเกี่ยวข้องกับภาวะ Lynch Syndrome (HNPCC) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธุกรรมที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งอวัยวะอื่นๆ
3. ยีน EPCAM (Epithelial Cell Adhesion Molecule): ยีนนี้มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของเซลล์เยื่อบุผิว การกลายพันธุ์ในยีน EPCAM ส่งผลกระทบต่อการควบคุมของยีนอื่นๆ เช่น MSH2 ซึ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้อย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ Lynch Syndrome
การตรวจยีนเหล่านี้สามารถช่วยให้เราทราบถึงความเสี่ยง ในการเกิดมะเร็งลำไส้ทางพันธุกรรมได้ล่วงหน้า ทำให้สามารถป้องกัน และเฝ้าระวังได้อย่างเหมาะสม
ปัจจุบันการตรวจยีนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้เราทราบถึง แนวโน้มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้พันธุกรรมได้ โดยใช้การตรวจยีนเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งลำไส้ เช่น ยีน APC, MLH1, MSH2, และ MSH6 การตรวจนี้จะช่วยให้ทราบถึงความเสี่ยงและสามารถเฝ้าระวังอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อลดโอกาสในการเกิดมะเร็งได้
โดยผู้ที่สนใจหรือคาดว่าตนมีความเสี่ยง สามารถเลือกตรวจยีนด้วยบริการจาก Geneus DNA ได้ เพราะจีเนียสใช้เทคโนโลยี Whole Genome-wide Array ที่วิเคราะห์ยีนได้กว่า 10 ล้าน SNPs ทำให้สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ รวมถึงมะเร็งลำไส้ได้อย่างละเอียดและครอบคลุมมาก
สรุป
มะเร็งลำไส้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการเกิดโรค ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือพันธุกรรม ดังนั้นการสังเกตอาการและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ นอกจากนี้ การตรวจยีนยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ทราบถึงความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ล่วงหน้า และสามารถวางแผนป้องกันได้อย่างเหมาะสม