การแพ้ละอองเกสรดอกไม้เป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ โดยอาการแพ้ที่เกิดขึ้น อาจทำให้เกิดความไม่สบายตัว เช่น จาม คัดจมูก และน้ำมูกไหล แต่ทำไมบางคนถึงแพ้มากกว่าคนอื่น? บทความนี้จะสำรวจสาเหตุของการแพ้ละอองเกสรและบทบาทของยีนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงวิธีการตรวจยีนเพื่อประเมินความเสี่ยงภูมิแพ้
การแพ้ละอองเกสรดอกไม้ หรือที่เราเรียกกันว่า “แพ้ดอกไม้” เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูกาลที่มีเกสรฟุ้งกระจาย โดยเกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันที่มีความไวต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เกสรดอกไม้ หรือฝุ่นละออง บางคนจะมีอาการแพ้และแสดงอาการต่างๆ เช่น จาม คัดจมูก คันตา และน้ำมูกไหล ซึ่งสาเหตุของการแพ้นี้ มีทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมร่วมกันเป็นตัวกระตุ้น
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงสาเหตุว่าทำไมบางคนถึงแพ้ละอองเกสรดอกไม้ และมีความเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์อย่างไร พร้อมแนะนำวิธีตรวจยีนความเสี่ยงภูมิ แพ้เพื่อให้คุณได้ทราบแนวทางในการดูแลสุขภาพล่วงหน้า
ภูมิแพ้เป็นปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น เมื่อร่างกายตอบสนองต่อสารหรือสิ่งกระตุ้นที่มักจะไม่เป็นอันตรายต่อคนส่วนใหญ่ ซึ่งภูมิแพ้สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทมีสาเหตุ และอาการที่แตกต่างกัน ดังนี้
ภูมิแพ้อากาศ (Allergic Rhinitis)
ภูมิแพ้อาหาร (Food Allergy)
ภูมิแพ้จากแมลง (Insect Allergy)
ภูมิแพ้จากสารเคมี (Chemical Allergy)
ภูมิแพ้จากสัมผัส (Contact Dermatitis)
ภูมิแพ้ต่อยา (Drug Allergy)
การรู้จักประเภทของภูมิแพ้และสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการสามารถช่วยให้คุณสามารถจัดการกับภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ในอนาคต
เมื่อคนที่แพ้ละอองเกสรดอกไม้สูดดมเกสรเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะมองว่าเกสรเป็นสิ่งแปลกปลอม และกระตุ้นการหลั่งสารฮีสตามีน ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ เช่น จาม คันจมูก น้ำมูกไหล และคันตา
สาเหตุที่ทำให้บางคนไวต่อเกสรดอกไม้กว่าคนอื่นนั้น มีความสัมพันธ์กับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และโครงสร้างของยีนที่เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้ โดยเฉพาะยีน LRRC32 และ IL1RL1 ที่มีบทบาทสำคัญต่อการตอบสนองภูมิคุ้มกัน ทำให้บางคนมีโอกาสเกิดอาการแพ้ละอองเกสรมากกว่าคนอื่น
LRRC32 หรือที่รู้จักกันในชื่อ GARP (Glycoprotein A Repetitions Predominant) เป็นยีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะเซลล์ T regulatory (Tregs) ที่ช่วยปรับสมดุลภูมิคุ้มกันไม่ให้ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นอย่างรุนแรง การทำงานของยีน LRRC32 ที่ไม่สมบูรณ์ อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้เกสรดอกไม้ได้ง่าย
ในส่วนของ IL1RL1 หรือ Interleukin 1 Receptor-Like 1 เป็นยีนที่สร้างโปรตีนซึ่งเป็นตัวรับสัญญาณของสาร Interleukin-33 (IL-33) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอักเสบและภูมิแพ้ หากยีน IL1RL1 เกิดการกลายพันธุ์หรือไวต่อการตอบสนองเกินไป ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้และการอักเสบเมื่อสัมผัสกับสารกระตุ้น เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืดอีกด้วย
การแพ้ละอองเกสรดอกไม้มีปัจจัยกรรมพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้อง หากพ่อหรือแม่มีประวัติแพ้ละอองเกสรดอกไม้ โอกาสที่ลูกจะมีอาการแพ้ละอองเกสรดอกไม้ด้วยจะสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทั้งพ่อและแม่มีอาการภูมิแพ้ ยีน LRRC32 และ IL1RL1 จึงมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดความเสี่ยงนี้จากพ่อแม่สู่ลูก
การตรวจยีนความเสี่ยงภูมิแพ้ เพื่อป้องกันอาการแพ้ล่วงหน้า
ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางพันธุกรรมช่วยให้เราสามารถตรวจหาความเสี่ยงภูมิแพ้ผ่านการตรวจยีนได้ การตรวจยีน LRRC32 และ IL1RL1 จะช่วยให้เราทราบความเสี่ยงในการแพ้ละอองเกสรดอกไม้ โดยการตรวจยีนด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยอย่าง Whole Genome-wide Array จากบริการของ Geneus DNA สามารถวิเคราะห์ยีนได้กว่า 10 ล้านตำแหน่ง ทำให้เราทราบถึงปัจจัยเสี่ยงในด้านภูมิแพ้ นำไปสู่ความสามารถในการวางแผนการดูแลสุขภาพ และป้องกันอาการแพ้ได้ดีขึ้น
การแพ้ละอองเกสรดอกไม้อาจสร้างความรำคาญ แต่การรู้จักจัดการอาการอย่างถูกต้อง และการใช้เทคโนโลยีทางพันธุกรรมเพื่อการป้องกัน จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาคต