ในบทความนี้ เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับสาเหตุของอาการเหล่านี้ รวมถึงวิธีดูแลผิวให้ปลอดภัยจากแสงแดด และแนวทางในการบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น

รู้หรือไม่ ผิวไวต่อแดด อาจเกิดจากพันธุกรรม (DNA) ในครอบครัว

ทำไมบางคนถึงมีผิวที่ไวต่อแสงแดด?

ผิวไวต่อแดด เกิดจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะพันธุกรรม บางคนมีผิวที่ผลิตเมลานิน (melanin) น้อย ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดด นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ผิวไวต่อแสง เช่น

• สภาพผิว: ผู้ที่มีผิวบางหรือแห้งมักจะไวต่อแสงมากกว่าผิวมันหรือผิวปกติ
• ยาบางชนิด: ยาบางประเภท เช่น ยาปฏิชีวนะหรือยารักษาสิว อาจทำให้ผิวไวต่อแดดมากขึ้น
• โรคผิวหนัง: เช่น โรคลูปัส หรือโรคภูมิแพ้บางชนิด อาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้
• การดูแลผิว: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด หรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวบอบบางมากขึ้น

อาการของผิวที่ไวต่อแสงแดด

เมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป อาจแสดงอาการที่เห็นได้ชัดเจน เช่น

1. แสบผิว: รู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนัง
2. แดง: ผิวจะมีสีแดงและบวม
3. ไหม้: ผิวหนังอาจเป็นรอยไหม้ หรือแผลพุพองในกรณีที่ถูกแดดจัด
4. คัน: มีอาการคันที่ผิวหนัง
5. ผิวลอก: ผิวอาจลอกหรือเป็นขุยหลังจากได้รับแสงแดด

ยีนที่มีผลทำให้ผิวไวต่อแสง

ยีนหลายชนิดมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความไวต่อแสงแดดของผิวหนัง โดยเฉพาะยีนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดด โดยยีน MC1R (Melanocortin 1 Receptor) เป็นหนึ่งในยีนที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสีผิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวขาว ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดความไวต่อแสงและการไหม้แดด ในขณะที่ยีนอื่นๆ เช่น TYR (Tyrosinase) และ SLC24A5 (Solute Carrier Family 24 Member 5) ก็มีส่วนในการควบคุมการผลิตเมลานิน ทำให้ผิวมีสีเข้มหรืออ่อน

นอกจากนี้ยีน HERC2 และ IRF4 ยังมีบทบาทในการกำหนดสีผิวและความไวต่อแสงแดด ซึ่งส่งผลต่อการตอบสนองของผิวต่อรังสี UV ทั้งยังมียีน NCOA6, SLC45A2, ASIP, และ LOC105374875 ที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้าง และการควบคุมเมลานินในผิวหนัง ซึ่งการศึกษายีนเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจความแตกต่างของการตอบสนองต่อแสงแดดในแต่ละบุคคล และช่วยพัฒนาวิธีการดูแลผิวหนังที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจยีนด้วย Geneus DNA เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงผิวไวต่อแดด

Geneus DNA ช่วยเปิดเผยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยีนที่ส่งผลต่อผิวไวต่อแสงแดดโดยตรง การตรวจวิเคราะห์ยีน เช่น MC1R, TYR และ HERC2 จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุและป้องกันผิวเสียจากแสงแดดได้ตรงจุด พร้อมคำแนะนำเฉพาะบุคคลเกี่ยวกับการดูแลผิวและป้องกันรังสี UV

ทำไมต้องเลือก Geneus DNA?

1. วิเคราะห์ลึกถึงระดับยีนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเมลานิน
2. คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เพื่อการดูแลสุขภาพที่แม่นยำ
3. ออกแบบการดูแลผิวเฉพาะบุคคลบนพื้นฐานพันธุกรรม

วิธีดูแลผิว ไม่ให้โดนแสงแดดทำร้าย

การดูแลผิวที่ไวต่อแดดมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้

• หลีกเลี่ยงแสงแดด: ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงที่แดดจัด เช่น ระหว่าง 10.00 - 16.00 น. หากจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรหาที่ร่มหรือใช้ร่มบังแดด
• ใช้ครีมกันแดด: ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีส่วนผสมที่เหมาะสำหรับผิวบอบบาง โดยควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
• ใส่เสื้อผ้าป้องกันแดด: เลือกสวมเสื้อผ้าที่มีผ้าบางและหลวม และเลือกสีเข้มเพื่อป้องกันรังสี UV
• ดูแลผิวหลังการโดนแดด: หากผิวมีอาการแสบแดง ควรใช้น้ำเย็นล้างบริเวณนั้น เพื่อลดความร้อน และสามารถใช้เจลว่านหางจระเข้เพื่อบรรเทาอาการได้
• ดื่มน้ำมากๆ: การดื่มน้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และลดโอกาสในการเกิดอาการแสบแดงจากแสงแดด

การมี ผิวไวต่อแดด เป็นปัญหาที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความไม่สบายตัว แต่ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาวได้ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง และการดูแลผิวอย่างเหมาะสม สามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณมีผิวสุขภาพดีในทุกวัน