เจาะลึกเรื่อง Paternity Test การตรวจหาความสัมพันธ์ของพ่อลูกด้วย DNA เพื่อเสริมสร้างความแน่นแฟ้นในครอบครัว
รู้กันหรือเปล่าว่า การตรวจหาความสัมพันธ์ของพ่อลูก เกิดขึ้นจริงในสังคมไม่ใช่เพียงแค่ในนิยาย ทำให้ในปัจจุบันหลายครอบครัวต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจดีเอ็นเอเสริมความมั่นใจว่าเป็นพ่อลูกกันจริง ๆ ซึ่งในทางการแพทย์เราเรียกหลักการนี้ว่า Paternity Test หรือการตรวจหาความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อลูกนั่นเอง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีบริการตรวจ DNA ที่มีความแม่นยำมากขึ้น วันนี้เราเลยจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจ กระบวนการตรวจดีเอ็นเอพ่อลูกว่าต้องทำยังไง และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
Paternity Test คือการตรวจดีเอ็นเอหาความสัมพันธ์ทางสายเลือด ซึ่งถือเป็นข้อดีในแง่ของการสร้างความเชื่อมั่นภายในครอบครัวด้วยหลักวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระบวนการตรวจ DNA พ่อลูกนั้น มีความลึกซึ้งและซับซ้อนมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังอาจสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ทั้งต่อคุณพ่อ คุณแม่ และเจ้าตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้อีกด้วย
ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มการตรวจ Paternity Test ทั้งฝ่ายว่าที่คุณพ่อและคุณแม่เองควรทำความเข้าใจร่วมกัน ถึงจุดประสงค์การทดสอบและต้องเตรียมใจยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ ซึ่งหากครอบครัวไหนพร้อมแล้ว ไปเตรียมศึกษาข้อมูลเชิงลึกด้านการตรวจหาความสัมพันธ์ในครอบครัวทางสายเลือด โดยเฉพาะระหว่างคุณพ่อและลูกน้อยกันด้านล่างนี้ได้เลย
การตรวจ Paternity Test มีความสำคัญมาก เมื่อหนุ่มๆ รู้สึกไม่มั่นใจว่าเด็กที่อยู่ในท้องของฝ่ายหญิงใช่ลูกที่เกิดจากตนจริงหรือไม่ นอกจากนี้แล้วในบางสถานการณ์ยังอาจมีการบีบบังคับทางอ้อม ให้หลายๆ ครอบครัวใช้ผลตรวจ DNA ในการยืนยันความสัมพันธ์เพื่อทำเรื่องสำคัญต่างๆ ทำให้การตรวจ Paternity Test เข้ามามีบทบาทที่สำคัญในส่วนนี้
เนื่องจากวิธีการตรวจนี้สามารถช่วยคลายความสงสัยและแก้ปัญหาที่อาจสร้างความยุ่งยากในอนาคตได้ เพราะการตรวจความเป็นพ่อลูกสามารถบอกผลได้อย่างแม่นยำและทำได้ง่ายมาก นั่นก็เพราะว่าใน DNA ของแต่ละคนนั้น มีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งถ่ายทอดส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น แปลได้ว่า หากเด็กเป็นลูกของคุณโดยสายเลือด เด็กก็จะได้รับสารพันธุกรรม (DNA) ครึ่งหนึ่งจากทั้งมารดาและอีกครึ่งหนึ่งจากบิดาผู้ให้กำเนิดนั่นเอง
ทั้งนี้ในระหว่างการตรวจดีเอ็นเอ ลักษณะทางพันธุกรรมของเด็กอาจจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับของแม่ก่อน หากมีลักษณะที่ไม่สามารถพบได้ในแม่ นั่นก็แปลว่าเด็กจะต้องได้รับการถ่ายทอดลักษณะดังกล่าวมาจากฝั่งพ่อ จึงสามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่า การพิสูจน์ว่าคุณเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กหรือไม่ สามารถทดสอบได้จากทั้งฝ่ายว่าที่คุณพ่อ ตัวเด็ก และถ้าจะให้ดีการเพิ่มตัวอย่างของแม่สามารถช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้เช่นกัน
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาจนก้าวไกลไปมาก ทำให้การตรวจดีเอ็นเอกลายเป็นเรื่องง่าย เพราะหลายบริษัทวิทยาศาสตร์ชั้นนำได้มีบริการตรวจดีเอ็นเอ หรือที่เรียกว่า Paternity Test ให้ทุกครอบครัวสามารถตรวจดีเอ็นเอได้เองที่บ้าน
สำหรับความแม่นยำในการตรวจสอบความเป็นบิดาจากผล DNA ถือว่ามีความน่าเชื่อสูง เพราะรูปแบบการทดสอบด้วยดีเอ็นเอความเป็นพ่อลูกผ่านทางสายเลือดเป็นขั้นตอนการทดสอบที่แม่นยำที่สุด และหากรูปแบบ DNA ระหว่างเด็กกับว่าที่คุณพ่อนั้นไม่ตรงกัน ความเป็นพ่อลูกก็จะถูกพิสูจน์ได้ทันทีว่าไม่ได้มีสายเลือดเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน แต่หากรูปแบบดีเอ็นเอระหว่างแม่ลูกและว่าที่คุณพ่อนั้นตรงกัน โอกาสในการที่ผู้ตรวจจะเป็นพ่อแท้ๆ คือ 99.99 % เลยทีเดียว
การตรวจ Paternity Test นอกเหนือจากผลตรวจที่พิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อและลูกแล้ว ยังมีประโยชน์ที่ตามมาอีกหลายอย่าง เช่น
ติดตามสาระความรู้ดีๆ ผ่านทาง Facebook ได้ที่ : GeneusDNA