Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

รอยดำบนใบหน้าเยอะ เกิดจากอะไร?

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Nov 12, 2024
|
484
สุขภาพ
พันธุศาสตร์
ความสวยงาม
รอยดำบนใบหน้า, รอยดำบนใบหน้า สาเหตุ, รอยดำบนใบหน้า เกิดจาก, รอยดำบนใบหน้า กรรมพันธุ์
Summary
รอยดำบนใบหน้า, รอยดำบนใบหน้า สาเหตุ, รอยดำบนใบหน้า เกิดจาก, รอยดำบนใบหน้า กรรมพันธุ์

รอยดำบนใบหน้า หรือจุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยและทำให้หลายคนกังวลใจ สาเหตุของรอยดำมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฮอร์โมน อายุ หรือแม้กระทั่งกรรมพันธุ์

การทำความเข้าใจว่ารอยดำเกิดจากอะไร จะช่วยให้คุณสามารถป้องกัน และดูแลผิวได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ โดยในบทความนี้เราจะมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของรอยดำบนใบหน้า และวิธีการดูแลผิวที่มีจุดด่างดำอย่างเหมาะสมไปด้วยกัน

รู้ทันผิวหน้า แก้ปัญหาจุดด่างดำ จากกรรมพันธุ์ครอบครัว

จุดด่างดำบนใบหน้าเกิดจากอะไร?

จุดด่างดำเกิดจากการเพิ่มขึ้นของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ซึ่งเมลานินเป็นสารที่ทำให้ผิวมีสี โดยหากมีการผลิตเมลานินมากเกินไปในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของผิวหนัง จะทำให้เกิดจุดด่างดำได้ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดการเพิ่มของเม็ดสีเมลานิน มีดังนี้

1. แสงแดด (รังสี UV)
แสงแดดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดรอยดำบนใบหน้า เนื่องจากรังสี UV จะกระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ผลิตเมลานินเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันผิวจากการถูกทำลาย และเมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน เซลล์ผิวหนังจะถูกทำลายและทำให้เกิดจุดด่างดำขึ้น

2. ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการรับประทานฮอร์โมนอื่น ๆ อาจทำให้เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าได้ เนื่องจากฮอร์โมนส่งผลต่อกระบวนการผลิตเมลานินในผิว

3. อายุ
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การสร้างเซลล์ผิวใหม่จะลดลง ส่งผลให้ผิวหนังไม่สามารถฟื้นฟูได้เร็วเหมือนเดิม ทำให้เม็ดสีที่กระจายตัวไม่เท่ากัน เกิดการสะสมและทำให้เกิดจุดด่างดำขึ้นบนใบหน้า

4. การอักเสบหรือการบาดเจ็บของผิว
เมื่อผิวหนังเกิดการอักเสบหรือบาดเจ็บ เช่น จากสิว หรือแผล การฟื้นฟูของผิวอาจเกิดการสะสมเม็ดสีมากขึ้นในบริเวณนั้น ทำให้เกิดรอยดำหลังจากแผลหายได้

5. กรรมพันธุ์
ยีนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดสีผิว และความไวต่อการเกิดจุดด่างดำ หากครอบครัวของคุณมีประวัติของการเกิดจุดด่างดำง่าย คุณอาจได้รับอิทธิพลจากกรรมพันธุ์นี้ ซึ่งทำให้คุณมีแนวโน้มเกิดรอยดำบนใบหน้าได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

จุดด่างดำบนใบหน้าเกิดจากอะไร?

ทำไมบางคนมีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำได้ง่าย?

นอกจากปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดดและฮอร์โมนแล้ว กรรมพันธุ์จากยีนบางชนิดก็เป็นปัจจัยที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ โดยยีนที่มีบทบาทในการกำหนดความไวต่อแสงแดดและการสร้างเม็ดสีเมลานิน ได้แก่

  • MC1R (Melanocortin 1 Receptor)
    ยีน MC1R ควบคุมการผลิตเมลานินในผิวหนัง การกลายพันธุ์ของยีนนี้สามารถทำให้ผิวไวต่อรังสี UV มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนเกิดจุดด่างดำได้ง่าย
  • IRF4 (Interferon Regulatory Factor 4)
    ยีนนี้มีบทบาทในการควบคุมการทำงานของเซลล์เมลาโนไซต์ การกลายพันธุ์ของ IRF4 ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสการเกิดจุดด่างดำและปัญหาผิวอื่น ๆ
  • SLC45A2 (Solute Carrier Family 45 Member 2)
    ยีน SLC45A2 เกี่ยวข้องกับการขนส่งเม็ดสีเมลานินในเซลล์ผิวหนัง การกลายพันธุ์ของยีนนี้ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น และมีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำได้ง่ายในบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อย ๆ

ทำไมบางคนมีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำได้ง่าย?

การตรวจ Geneus DNA: นวัตกรรมที่ช่วยให้รู้ว่าตัวเองเสี่ยงต่อการเกิดจุดด่างดำ

ในปัจจุบัน การตรวจพันธุกรรมเป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยให้คุณรู้ว่า คุณมีความเสี่ยงจากกรรมพันธุ์ในการเกิดจุดด่างดำมากน้อยเพียงใด โดยบริการตรวจ Geneus DNA ใช้เทคโนโลยี Whole Genome-wide Array ที่สามารถวิเคราะห์ยีนได้มากกว่า 20,000 ยีน เพื่อหาความเสี่ยงด้านพันธุกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น MC1R, IRF4, และ SLC45A2 ซึ่งมีผลต่อการผลิตเมลานิน และการเกิดจุดด่างดำนั่นเอง

การตรวจ Geneus DNA: นวัตกรรมที่ช่วยให้รู้ว่าตัวเองเสี่ยงต่อการเกิดจุดด่างดำ

วิธีดูแลรักษาผิวหน้าที่มีจุดด่างดำ

การดูแลผิวที่มีปัญหาจุดด่างดำอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดปัญหา และป้องกันไม่ให้จุดด่างดำเกิดขึ้นเพิ่มเติมได้ ซึ่งวิธีที่แนะนำ ได้แก่

1. การใช้ครีมกันแดดทุกวัน : เนื่องจากแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดจุดด่างดำ การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB
2. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยลดเม็ดสี : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการผลิตเมลานิน เช่น วิตามินซี กรดโคจิก หรือสารสกัดจากชะเอมเทศ ซึ่งจะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดจุดด่างดำได้
3. การดูแลผิวหลังการอักเสบหรือสิว : หากเกิดการอักเสบหรือสิว ควรดูแลผิวอย่างระมัดระวังเพื่อลดการเกิดรอยดำหลังจากแผลหาย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านการอักเสบ หรือวิตามินอีจะช่วยให้แผลฟื้นตัวได้ดีขึ้น และลดรอยดำที่อาจเกิดขึ้นได้
4. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : อาหารที่มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักใบเขียวและผลไม้สีส้ม จะช่วยเสริมสร้างการฟื้นฟูเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงในการเกิดจุดด่างดำ

สรุปได้ว่ารอยดำบนใบหน้าเกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งแสงแดด ฮอร์โมน อายุ และกรรมพันธุ์ การรู้ถึงสาเหตุและความเสี่ยงจากยีนต่าง ๆ เช่น MC1R, IRF4, และ SLC45A2 จะช่วยให้คุณสามารถดูแลผิวได้อย่างถูกต้อง และการตรวจ Geneus DNA ก็เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางพันธุกรรม และปรับการดูแลสุขภาพตามความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริง

 

 

chat line chat facebook