อาการท้องผูกในเด็กถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป เนื่องจากในแต่ละวัน ผู้ปกครอง 1 ใน 20 คน มักพาลูกมาหาหมอด้วยภาวะลูกอึไม่ออก ซึ่งเด็กที่ท้องผูกจำนวนมากจะมีอาการอุจจาระแข็ง แห้ง และเจ็บทวารหนักเมื่อต้องเบ่งอึ ตลอดจนไม่สามารถขับถ่ายได้ทุกวันแบบเด็กทั่วไป ดังนั้นหากพ่อแม่คนไหนพบว่าลูกน้อยมีอาการดังกล่าว ควรรีบหาวิธีแก้ด้วยการทานวิตามินที่ช่วยขับถ่าย หรือขอคำแนะนำจากแพทย์เป็นการด่วน

ลูกอึไม่ออก ท้องผูกบ่อย ปล่อยไว้อาจอันตรายต่อสุขภาพระยะยาว

ลักษณะอุจจาระเด็กบอกอะไรได้บ้าง?

ความจริงแล้วเด็กแต่ละคนจะมีพฤติกรรมการขับถ่ายที่แตกต่างกันออกไป โดยบางคนอาจอึวันละครั้ง หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหาร ในขณะที่เด็กบางคนไม่อึเลยเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งเราจะเรียกอาการนี้ว่า “ท้องผูก” แต่นอกจากความถี่ในการขับถ่ายแล้ว ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญกับลักษณะอุจจาระของลูกด้วย ดังนี้

• อุจจาระเป็นก้อนเล็กๆ แข็งๆ เหมือนถั่ว ยากต่อการขับถ่าย
• อุจจาระรูปทรงคล้ายไส้กรอก เป็นก้อน พื้นผิวไม่เรียบเนียน
• อุจจาระรูปทรงไส้กรอกเรียวๆ หรือดูคล้ายงู ผิวเรียบและนิ่ม
• อุจจาระเนื้อเละ ไม่เป็นก้อน ปลายอึเหมือนมีร่องรอยขาดแบบไม่เรียบ
• อุจจาระแบบน้ำ ไร้รูปทรงและไม่มีก้อนอึปะปน

สำหรับลักษณะของอุจจาระที่บ่งชี้ว่าเด็กมีสุขภาพดี มักจะปรากฎในลักษณะอุจจาระรูปทรงแบบที่ 3 และ 4 

ภาพจาก Patrick T. Reeves, MD, FAAP, adapted from Lane et al.

ลูกท้องผูกบ่อยอันตรายกว่าที่คิด

อาการท้องผูกที่ทำให้ลูกอึแข็งหรืออึไม่ออก เกิดขึ้นได้จากทั้งปัจจัยตามธรรมชาติ และพฤติกรรมการอั้นอุจจาระของเด็กเอง รวมไปถึงในกลุ่มเด็กที่ป่วยด้วยโรคทางเดินอาหาร แต่หากปล่อยให้เด็กมีภาวะท้องผูกเรื้อรัง ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กในหลายด้าน ดังนี้

• ปวดท้องอย่างรุนแรง
• ท้องอืด
• ความอยากอาหารลดลง
• คลื่นไส้ อาเจียน
• กรดไหลย้อน
• ท้องเสีย
• ลำไส้อุดตัน

ทั้งนี้เด็กบางรายอาจมีอาการคล้ายท้องเสียหลังท้องผูกมานาน นั่นก็เพราะว่าร่างกายกำลังเร่งขับอุจจาระที่ตกค้างอยู่ภายในออกไปให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ปกครองควรใจเย็นและติดตามอาการของลูกอย่างใกล้ชิด 

แก้ปัญหาลูกอึไม่ออก กินวิตามินอะไรดี?

พ่อแม่หลายคนประสบปัญหา ลูกไม่กินผักผลไม้ทำให้ลูกอึไม่ออก เพราะร่างกายขาดสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการขับถ่าย จึงต้องมองหาตัวช่วยเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกได้รับวิตามินที่ครบถ้วนและดีต่อร่างกาย

สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีวิตามินช่วยขับถ่าย ซึ่งคิดค้นโดยคุณหมออย่าง Jelly CARE สูตร PROBIO+  ถือว่ามีปริมาณวิตามินที่เพียงพอในการช่วยให้ลูกน้อยอึได้ง่ายขึ้น เพราะมีโพรไบโอติกและพรีไบโอติก 4 ชนิดที่เป็นจุนลินทรีย์ชั้นดีและช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร ตลอดจนขับสารพิษออกจากร่างกายได้ มาพร้อมกับแอปเปิ้ลไซเดอร์เวนิกา เอนไซม์ธรรมชาติ และสารสกัดจากผักหลากสี เพื่อเอาใจหนูน้อยที่ไม่ชอบทานผักโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ในงานวิจัยได้มีการระบุเอาไว้ด้วยว่า พรีไบโอติก 4 ชนิดที่เป็นส่วนประกอบหลักใน Jelly CARE PROBIO+ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลลำไส้และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

• Lactobacillus acidophilus : ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ป้องกันเชื้อไวรัส
• Lactobacillus Gasseri : ช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน
• Lactobacillus Johnsonii : ช่วยบรรเทาอาการเมื่อเผชิญโรคต่างๆ
• Bifidobacterium : ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น

ดังนั้นหากครอบครัวไหนที่ลูกหลานมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย อย่ามัวแต่นิ่งนอนใจ รีบหาทางแก้ด้วยการเสริมวิตามินให้ตรงจุด เพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงห่างไกลโรค

อ้างอิง

https://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/abdominal/Pages/constipation.aspx