Rated 4.98-stars across 2K+ reviews
Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews Rated 4.98-stars across 2K+ reviews

รู้หรือไม่? นิ่วในถุงน้ำดี ก็เป็นโรคทางพันธุกรรม

GeneusDNA profile image By
GeneusDNA
|
Oct 30, 2024
|
792
สุขภาพ
พันธุศาสตร์
โรค
นิ่วในถุงน้ำดี, นิ่ว กรรมพันธุ์, นิ่วในถุงน้ำดี อาการ, นิ่วในถุงน้ำดี เสี่ยง
Summary
นิ่วในถุงน้ำดี, นิ่ว กรรมพันธุ์, นิ่วในถุงน้ำดี อาการ, นิ่วในถุงน้ำดี เสี่ยง

โรคนิ่วในถุงน้ำดี พบได้บ่อย จนหลายคนสงสัยว่าโรคนี้เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมหรือไม่ ในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบ รวมถึงวิธีป้องกันและดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ไปด้วยกัน

ปัจจุบันโรคนิ่วในถุงน้ำดีเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และมีน้ำหนักเกิน ซึ่งนิ่วในถุงน้ำดีสามารถสร้างความเจ็บปวด และมีผลต่อสุขภาพได้อย่างมาก บทความนี้จึงจะพาทุกคนไปเจาะลึก อาการและความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี พร้อมทำความเข้าใจว่า นิ่วในถุงน้ำดีเกี่ยวกับพันธุกรรมอย่างไร

รู้ก่อนเสี่ยงน้อยลง นิ่วในถุงน้ำดี ตรวจสอบความเสี่ยงได้จาก DNA

นิ่วในถุงน้ำดี คืออะไร?

นิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) คือการก่อตัวของก้อนนิ่วภายในถุงน้ำดีที่อยู่บริเวณใต้ตับ ซึ่งถุงน้ำดีมีหน้าที่เก็บ และส่งน้ำดีไปยังลำไส้เล็ก เพื่อช่วยย่อยไขมันในอาหาร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในน้ำดี เช่น มีคอเลสเตอรอลหรือบิลิรูบิน (Bilirubin) มากเกินไป ทำให้เกิดการตกตะกอนจนกลายเป็นก้อนนิ่ว ซึ่งนิ่วในถุงน้ำดีมีหลายประเภท โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

  1. นิ่วคอเลสเตอรอล (Cholesterol Gallstones): ก้อนนิ่วที่มีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอลเป็นหลัก มักเกิดในคนที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
  2. นิ่วบิลิรูบิน (Pigment Gallstones): ก้อนนิ่วที่เกิดจากการสะสมของบิลิรูบิน มักพบในคนที่เป็นโรคตับแข็ง หรือผู้ที่มีภาวะเม็ดเลือดแดงแตกบ่อยๆ

สาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี

การเกิดนิ่วในถุงน้ำดีมีหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับวิธีการดำเนินชีวิตและพันธุกรรม ดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในน้ำดี: เมื่อมีคอเลสเตอรอลในน้ำดีมากเกินไป น้ำดีจะไม่สามารถละลายคอเลสเตอรอลได้ทั้งหมด ส่งผลให้เกิดการตกตะกอน และกลายเป็นก้อนนิ่ว
  • การทำงานผิดปกติของถุงน้ำดี: หากถุงน้ำดีที่ไม่สามารถบีบตัวได้ดีพอจะทำให้เกิดการคั่งของน้ำดี ซึ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดการตกตะกอนของสารเคมีได้
  • ภาวะอ้วนและน้ำหนักเกิน: การมีน้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วน จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วคอเลสเตอรอล เนื่องจากมีการผลิตคอเลสเตอรอลมากขึ้น
  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง: การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงบ่อยๆ ทำให้มีคอเลสเตอรอลในน้ำดีมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
  • การอดอาหารบ่อยหรือการลดน้ำหนักเร็วเกินไป: ทำให้เกิดการสะสมของบิลิรูบินในน้ำดีมากขึ้น
  • กรรมพันธุ์: มีความเชื่อมโยงระหว่างโรคนิ่วในถุงน้ำดีกับพันธุกรรม โดยหากคนในครอบครัวเคยมีประวัติการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี สมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวเอง ก็อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี

อาการของนิ่วในถุงน้ำดี

อาการของนิ่วในถุงน้ำดีอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อนนิ่ว โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ปวดท้องบริเวณใต้ซี่โครงขวา: อาการปวดจะเป็นลักษณะปวดบีบๆ หรือปวดแน่น ซึ่งบางครั้งสามารถร้าวไปถึงหลังหรือไหล่ขวาได้ โดยอาการปวดมักเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
  • รู้สึกคลื่นไส้และอาเจียน: เกิดจากการอุดตันของนิ่วในท่อน้ำดี ทำให้การบีบตัวของถุงน้ำดีผิดปกติ
  • ท้องอืดและแน่นท้อง: เมื่อมีการอุดตันของนิ่ว อาจทำให้การย่อยอาหารทำงานผิดปกติ
  • ตัวเหลืองและตาเหลือง: หากก้อนนิ่วไปอุดตันท่อน้ำดี อาจทำให้เกิดภาวะดีซ่าน (Jaundice)
  • มีไข้และหนาวสั่น: เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อภายในท่อน้ำดี

อาการของนิ่วในถุงน้ำดี

กรรมพันธุ์มีผลต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีจริงหรือไม่?

นิ่วในถุงน้ำดีมีความเชื่อมโยงกับพันธุกรรมอย่างชัดเจน งานวิจัยหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า หากคนในครอบครัวมีประวัติการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ความเสี่ยงของสมาชิกในครอบครัวก็จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฝาแฝดหรือพี่น้องที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด นอกจากนี้ ยังพบว่าพันธุกรรมสามารถมีผลต่อการเผาผลาญคอเลสเตอรอลและบิลิรูบินในร่างกาย ทำให้ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมีโอกาสเกิดนิ่วได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ พันธุกรรมไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่มีผล การดำเนินชีวิต เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนัก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วได้ ดังนั้น แม้ว่าจะมีความเสี่ยงทางพันธุกรรม แต่หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคได้เช่นกัน

การตรวจ DNA วิเคราะห์ความเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี: นวัตกรรมจาก Geneus DNA

ด้วยเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ DNA ที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน ทำให้เราสามารถตรวจหาความเสี่ยงทางพันธุกรรมของโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้อย่างแม่นยำ โดย Geneus DNA เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมการตรวจพันธุกรรม ที่สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสุขภาพ ได้จากยีนหลายหมื่นตำแหน่งในร่างกาย 

ด้วยการใช้เทคโนโลยี Whole Genome-wide Array ซึ่งสามารถตรวจสอบความผิดปกติของยีน ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคอเลสเตอรอลและสารเคมีในน้ำดี โดยการตรวจนี้ช่วยให้ทราบได้ว่า บุคคลนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดนิ่วในถุงน้ำดีสูงหรือต่ำ รวมถึงยังสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม 

นอกจากนี้ Geneus DNA ยังมีบริการให้คำปรึกษา และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้สามารถเข้าใจข้อมูลทางพันธุกรรมได้อย่างถูกต้อง และสามารถป้องกันความเสี่ยงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจ DNA ความเสี่ยง นิ่วในถุงน้ำดี


วิธีป้องกันและดูแลตัวเองเมื่อเสี่ยงต่อโรคนิ่วในถุงน้ำดี

แม้จะมีความเสี่ยงทางพันธุกรรม แต่สามารถดูแลตัวเองเพื่อป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีได้ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

  • รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำและมีเส้นใยสูง: ช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในน้ำดี
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และการเผาผลาญไขมัน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และลดความเข้มข้นของน้ำดีได้
  • หลีกเลี่ยงการอดอาหารเป็นเวลานาน: การงดอาหารทำให้การทำงานของถุงน้ำดีผิดปกติ และเพิ่มโอกาสการตกตะกอนของสารเคมีในน้ำดี

นิ่วในถุงน้ำดีเป็นโรคที่สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรม ตลอดจนการดำเนินชีวิต และการรับประทานอาหาร แต่หากคุณมีความเสี่ยงทางพันธุกรรม หรือมีประวัติครอบครัวที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดี คุณควรดูแลสุขภาพและปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ในอนาคต

 

chat line chat facebook